วิธีใช้แอร์ให้ประหยัดไฟ
อากาศร้อน ๆ อย่างเมืองไทย คงหนีไม่พ้นต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศเอาไว้ประจำบ้าน แต่ว่าแอร์นั้น ก็สุดแสนจะกินไฟ มาดูกันว่ามีวิธีไหนช่วยประหยัดไฟจากการใช้แอร์ได้บ้าง
1. มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ภาพจาก : http://static2.ran4u.com2. ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม
ควรติดตั้งในจุดที่ลลมสามารถกระจายได้ทั่วห้อง ไม่มีสิ่งกีดขวาง หรืออยู่ในมุมอับ หลีกเลี่ยงประตู หน้าต่าง พัดลมดูดอากาศ ตำแหน่งที่รับแดดจัด เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนัก
ภาพจาก http://www.banidea.com/3. เลือกขนาด BTU ที่เหมาะสม
สามารถคำนวณขนาด BTU โดยใช้สูตร พื้นที่ห้อง x ค่า Cooling Load Estimation = ค่า BTU ที่เหมาะสม โดยค่าประเมิน Cooling Load Estimation ที่เหมาะสมกับแต่ละห้องมีดังนี้
- ห้องนอน 700-750 BTU/ตารางเมตร
- ห้องนั่งเล่น 750-850 BTU/ตารางเมตร
- ห้องทานอาหาร 800-950 BTU/ตารางเมตร
- ห้องครัว 900-1000 BTUตารางเมตร
- ห้องทำงาน 800-900 BTU/ตารางเมตร
- ห้องประชุม 850-1000 BTU/ตารางเมตร
สูตรข้างต้นใช้คำนวณในกรณีที่ความสูงของเพดานที่สูงไม่เกิน 3 เมตรเท่านั้น หากมีปัจจัยเพิ่มเติมจะต้องบวกค่า BTU เพิ่ม แต่ไม่ควรใช้แอร์ที่มี BTU สูงเกินความจำเป็น มิฉะนั้น จะกลายเป็นว่าเปลืองค่าแอร์
ภาพจาก http://www.homeest.com4. ตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะ
ไม่ใช่ว่าการตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา จะประหยัดไฟเสมอไป อุณหภูมิที่พอเหมาะจริง ๆ คือ 28-30 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของลมให้ห้อง จะช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย และประหยัดไฟได้มากกว่า
ภาพจาก http://www.saradd.com5.เอาเครื่องไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออก
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ อย่างขณะเปิดแอร์ จะทำให้อุณหภูมิของห้องสูงขึ้น จึงมีส่วนให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเช่นกัน
ภาพจาก http://tee1infinity.com/6. งดกิจกรรมทำความร้อน
เช่น การสูบบุหรี่เป็นต้น เพราะจะทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก เพื่อระบายอากาศในห้องออกไปสู่ภายนอก หรือแม้แต่การใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ก็จะทำให้เปลืองไฟเพิ่มขึ้น ดังนั้นใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับอากาศจะดีที่สุด
ภาพจาก https://www.notibras.com7. ใช้ผ้าม่านช่วย
เลือกใช้ผ้าม่านแบบกัน UV ในช่วงที่มีแสงแดดส่องเข้ามาในห้องหรือช่วงที่ใช้แอร์ เพื่อลดอุณหภูมิในห้อง เป็นการช่วยแอร์ประหยัดไฟได้ในระดับหนึ่ง
ภาพจาก https://www.forfur.com/